ปธ.สภาอุตฯ จับตาทีมศก.รัฐบาลใหม่ ชี้ “ปัญหาปากท้อง” ต้องแก้เร่งด่วน

ปธ.สภาอุตฯ จับตาทีมศก.รัฐบาลใหม่ ชี้ “ปัญหาปากท้อง” ต้องแก้เร่งด่วน

ประธานสภาอุตฯ จับตาทีมเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ ขอเร่งแก้ปัญหาปากท้อง อันดับแรก พร้อมเร่งเพิ่มกำลังซื้อ ลดต้นทุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน เตรียมนัดหารือครม.ใหม่หลังโปรดเกล้าฯ

วันที่ 29 ส.ค.66 นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวภายหลังการแถลงข่าวงาน “Environmental and Waste Management Expo 2023” โดยให้ความเห็นถึงหน้าตาทีมเศรษฐกิจ รัฐบาลใหม่ ว่า กำลังดูอยู่ว่า จะนิ่งเมื่อไหร่ ยอมรับบางตำแหน่งซึ่งดูแล้วยังมีข้อสงสัย โดยเฉพาะทีมงานกระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมด เนื่องจากปัญหาของโลกและไทยคือเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งมีความเปราะบาง ต้นทุนเพิ่มขึ้น กำลังซื้อหดตัว เพราะฉะนั้น เรื่องเศรษฐกิจเป็นหัวใจสำคัญ

นายเกรียงไกร ระบุว่า เรื่องที่อยากให้รัฐบาลใหม่ผลักดันอย่างเร่งด่วน คือ “ปัญหาปากท้อง” ซึ่งเกิดจากค่าครองชีพสูงกว่ารายได้ที่ได้รับ ของทุกอย่างแพงหมด ทั้ง ต้นทุนการผลิต น้ำมัน ค่าไฟฟ้า

 

 

โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า ที่ทางส.อ.ท. ได้ออกมาเรียกร้องให้ช่วยลดค่าไฟฟ้า เนื่องจากมีส่วนทำให้ความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยเสียเปรียบเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเวียดนาม อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นคู่แข่งรายใหญ่ ผลิตสินค้าประเภทเดียวกัน และมีลูกค้าในกลุ่มประเทศเดียวกัน และเมื่อผู้ประกอบการรับภาระไม่ไหว ก็ผลักภาระให้ผู้บริโภค ส่งผลให้สินค้าปรับขึ้นราคาทุกประเภท ส่งผลต่อค่าครองชีพประชาชน

โดยสรุปเรื่องที่อยากให้รัฐบาลใหม่เร่งดูแล คือ การลดค่าครองชีพ และค่าใช้จ่ายประชาชน การเพิ่มกำลังซื้อ ลดต้นทุนการเงิน โดยหามาตรการต่างๆ ในการสนับสนุนให้เอสเอ็มอี เข้าถึงแหล่งเงินในราคาถูก รวมถึงการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ทำให้เกิดการจ้างงาน การสร้างงาน

 

 

ต่อคำถามที่ว่า สภาอุตฯ จะมีการเข้าพบ “เศรษฐา” หรือมีการนัดหารือกันบ้างหรือไม่นั้น นายเกรียงไกร ระบุว่า ตอนนี้คงรอให้ฟอร์มครม. และมีการโปรดเกล้าฯ อย่างเป็นทางการก่อน เชื่อว่าเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยคงจะนัดหารือกัน เพราะโดยส่วนใหญ่ ในอดีตที่ผ่านมา รัฐบาลใหม่ นายกรัฐมนตรี และทีมเศรษฐกิจ คงต้องหาจังหวะในการนัดพบกับภาคเอกชนที่เป็นตัวหลักในคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เพราะทางส.อ.ท. มีเรื่องที่จะฝากเป็นการบ้านให้รัฐบาลใหม่หลายเรื่อง เพราะก่อนเลือกตั้งได้มีการทำหนังสือปกขาว ว่าควรทำอะไร 5 ข้อยื่นให้กับทุกพรรค ก็จะมีการหารือลงในรายละเอียด และสิ่งที่ต้องทำเร่งด่วน

 

 

ทั้งนี้ มองว่า ในส่วนของนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายเดือน เพราะฉะนั้น ในระยะสั้นจะทำอย่างไร ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ , เรื่องการส่งออกที่ลดลงติดต่อกัน 10 เดือน จะหาตลาดใหม่อย่างไร รวมถึงปัญหาล่าสุด คือสินค้าราคาถูก หรือมาตรฐานต่ำ จากต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนเข้าทะลักเข้ามาไทย ซึ่งจะกระทบต่อเอสเอ็มอี ผู้ผลิตในไทยอาจสู้ไม่ได้จนอาจต้องเลิกกิจการได้ เนื่องจากเป็นภัยความมั่นคงทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ทำอย่างไรถึงจะป้องกันแก้ไขในส่วนนี้ ซึ่งล่าสุด 45 กลุ่มอุตสาหกรรม มาร้องเรียน 25 กลุ่ม อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร เม็ดพลาสติก ปิโตรเคมี รวมถึงชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น