แนะนำ 10 มือถือกล้องคู่ (Dual Camera) น่าซื้อน่าใช้ ประจำปี 2016 มีมือถือรุ่นไหน แบรนด์ไหน ที่มีกล้องคู่ถ่ายภาพสวยบ้าง มาดูกัน

หลังจากแนะนำ 10 มือถือกล้องชัด ราคาไม่เกิน 10,000 บาท ปี 2016 ไปแล้ว วันนี้กระปุกดอทคอมมี 10 มือถือกล้องคู่ น่าซื้อน่าใช้ ประจำปี 2016 มาแนะนำให้กับคนที่กำลังมองหามือถือรุ่นใหม่เน้นถ่ายภาพสวย ๆ ชัด ๆ และมีกล้องคู่ไว้ดูเป็นแนวทางก่อนตัดสินใจซื้อ ส่วนจะมีมือถือกล้องคู่รุ่นไหนน่าสนใจบ้างนั้น มาติดตามกันเลย
1. iPhone 7 Plus

มือถือกล้องคู่ที่มาพร้อมความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่ากันทั้ง 2 ตัว ใช้เทคโนโลยี ISP ช่วยให้ถ่ายภาพได้ดียิ่งขึ้น และสามารถซูมแบบออปติคอลที่ถ่ายได้ใกล้ 2 เท่า, ซูมแบบดิจิตอลได้ใกล้ถึง 10 เท่า และถ่ายวิดีโอได้ใกล้ถึง 6 เท่า โดยไม่สูญเสียความละเอียด ด้านเลนส์กล้องแบ่งออกเป็นเลนส์ Wide มีรูรับแสงกว้าง f/1.8, เลนส์ Tele มีรูรับแสงกว้าง f/2.8 สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล

– iPhone 7 Plus หน่วยความจำ 32GB วางจำหน่ายที่ราคา 31,500 บาท
– iPhone 7 Plus หน่วยความจำ 128GB วางจำหน่ายที่ราคา 35,500 บาท
– iPhone 7 Plus หน่วยความจำ 256GB วางจำหน่ายที่ราคา 39,500 บาท

2. Huawei Mate 9

มือถือกล้องคู่ที่แบ่งออกเป็นเซ็นเซอร์ภาพขาวดำ (Monochrome) ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง f/2.2, เซ็นเซอร์ภาพสี (RGB) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง f/2.2 มีระบบกันสั่น OIS, ระบบออโต้โฟกัสแบบ Hybrid ที่ใช้ 4 เทคนิคร่วมกัน (Laser, Phase-detect, depth และ contrast detection), มีระบบ Hybrid Zoom ที่ใช้กล้องหลังสองตัว ซูมได้ 2 เท่า โดยไม่สูญเสียความละเอียดของภาพ และรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

– Huawei Mate 9 วางจำหน่ายที่ราคา 23,900 บาท

3. Huawei Mate 9 Pro

มือถือกล้องคู่อีกรุ่นจาก Huawei ที่น่าสนใจ มาพร้อมกล้องหลังคู่แบบเดียวกับ Huawei Mate 9 แบ่งออกเป็นเซ็นเซอร์ภาพขาวดำ (Monochrome) ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.2, เซ็นเซอร์ภาพสี (RGB) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง f/2.2 มีระบบกันสั่น OIS, ระบบออโต้โฟกัสแบบ Hybrid ที่ใช้ 4 เทคนิคร่วมกัน (Laser, Phase-detect, depth และ contrast detection), มีระบบ Hybrid Zoom โดยใช้กล้องหลังสองตัว ซูมได้ 2 เท่า โดยไม่สูญเสียความละเอียดของภาพ และรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

– Huawei Mate 9 Pro รุ่นแรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB ราคา 4,699 หยวน (ประมาณ 24,500 บาท)
– Huawei Mate 9 Pro รุ่นแรม 6GB, หน่วยความจำ 128GB ราคา 5,299 หยวน (ประมาณ 27,300 บาท)

4. Huawei Honor 6X

มือถือระดับกลางรุ่นใหม่จาก Huawei ที่มาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และ 2 ล้านพิกเซล โดยกล้องตัวแรกมาพร้อมระบบโฟกัส phase-detection auto-focus (PDAF), มีแฟลช LED ช่วยให้ภาพสวยสดคมชัดทุกมุมมอง และกล้องตัวที่สองใช้สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

– Huawei Honor 6X หน่วยความจำ 32GB วางจำหน่ายที่ราคา 1,299 หยวน (ประมาณ 6,700 บาท)
– Huawei Honor 6X  หน่วยความจำ 64GB วางจำหน่ายที่ราคา 1,599 หยวน (ประมาณ 8,300 บาท)

5. Xiaomi Mi 5S Plus

มือถือกล้องคู่แบรนด์จีนจาก Xiaomi มาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซลเท่ากันทั้ง 2 ตัว ใช้เซ็นเซอร์ของ Sony และเทคโนโลยี Clear Sight ของ Qualcomm ที่มีการทำงานคล้ายกับกล้องของ Huawei P9 โดยการแยกเซ็นเซอร์สี และเซ็นเซอร์ขาวดำออกจากกัน รวมถึงรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 4 ล้านพิกเซล

– Xiaomi Mi 5S Plus รุ่นแรม 4GB วางจำหน่ายที่ราคา 2,299 หยวน (ประมาณ 11,900 บาท)
– Xiaomi Mi 5S Plus รุ่นแรม 6GB วางจำหน่ายที่ราคา 2,599 หยวน (ประมาณ 13,500 บาท)

6. Lenovo PHAB 2 PLUS

นอกจากตัวเครื่องจะมีดีไซน์สวยงามหรูหราด้วยวัสดุอะลูมิเนียมแล้ว ยังมาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลเท่ากันทั้ง 2 ตัว, รูรับแสงกว้าง f/2.0 ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้สว่างมากยิ่งขึ้น, มีแฟลช LED แบบคู่, มีระบบ Laser Focus ช่วยให้โฟกัสภาพได้อย่างแม่นยำขึ้น โดยสามารถถ่ายภาพ และปรับโฟกัสภาพทีหลังได้ ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

– Lenovo PHAB 2 PLUS วางจำหน่ายที่ราคา 10,990 บาท

7. vivo Xplay6

มือถือกล้องคู่จาก vivo ที่มาพร้อมความละเอียด 12 พิกเซล และ 5 ล้านพิกเซล โดยกล้องตัวแรกใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX362, ขนาดพิกเซล 1.4μm, รูรับแสงกว้าง f/1.7, ระบบกันสั่น OIS แบบ 4 แกน, มีระบบโฟกัส PDAF เคลมว่าโฟกัสได้เร็วแค่ 0.03 วินาที และกล้องตัวที่สองใช้สำหรับถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

– vivo Xplay6 วางจำหน่ายที่ราคา 4,498 หยวน (ประมาณ 23,000 บาท)

8. vivo X9, X9Plus

มือถือเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด และรุ่นแรกของโลกจาก vivo ที่มาพร้อมทั้งกล้องหน้าคู่ โดยกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และ 8 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX376 ขนาด 1/2.8 นิ้ว, รูรับแสงกว้าง f/2.0 และ สามารถถ่ายภาพเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอได้ ส่วนกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.8 นิ้ว เท่ากับกล้องหน้า

– vivo X9 หน่วยความจำ 64GB ราคา 2798 หยวน (ประมาณ 14,500 บาท)
– vivo X9 หน่วยความจำ 128GB ราคา 2998 หยวน (ประมาณ 15,500 บาท)
– vivo X9Plus ยังไม่เปิดเผยราคา

9. ZTE Axon 7 Max

อีกหนึ่งมือถือกล้องคู่แบรนด์จาก ZTE มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลเท่ากันทั้ง 2 ตัว พร้อม dual-tone LED flash, Laser auto focus, รูรับแสงกว้าง f/2.0, ใช้เซ็นเซอร์ Sony สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ และยังรองรับการถ่ายภาพแบบ 3D ได้อีกด้วย ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล

– ZTE Axon 7 Max วางจำหน่ายที่ราคา 2,999 หยวน (ประมาณ 15,500 บาท)

10. Gionee S9

มือถือกล้องคู่สุดท้ายเป็นมือถือแบรนด์จีนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Gionee โดยกล้องหลังมาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และ 5 ล้านพิกเซล พร้อม dual-tone LED flash และใช้เซ็นเซอร์ของ Samsung ส่วนกล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลออย่างยิ่ง

– Gionee S9 วางจำหน่ายที่ราคา 2,499 หยวน (ประมาณ 12,900 บาท)