“แตงโม” แฮปปี้เลี้ยง “น้องอีสเตอร์” หลงสุดๆ ได้ความอดทนเพิ่มมากขึ้น

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่ อาคารหอประชุม ชั้น 2 กสทช. พหลโยธิน ซ.8 แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวชื่อดัง ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมยื่นจดหมายปราบการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ หนังออนไลน์ดูฟรี ผิดกฎหมาย ถึงเรื่อง ‘น้องอีสเตอร์’ ลูกสาวบุญธรรม

 

โดย ‘แตงโม’ กล่าวว่า “น้องอีสเตอร์น่ารักมากเลยค่ะ ตอนนี้อายุ 1 เดือนนิดๆ เอง กำลังอ้อแอ้เลย ตอนที่คุณกระติก ผู้จัดการส่วนตัวซึ่งเป็นคุณแม่แท้ๆ ของน้องกำลังจะคลอดน้อง โมก็เข้าไปดูด้วย วินาทีนั้นก็ต้องให้กำลังใจคุณกระติกเพราะเป็นลูกคนแรกด้วยและตัดสินใจว่าจะคลอดเอง โมก็ต้องคอยบอกว่าไม่เป็นไรทุกอย่างโอเค จริงๆ ไม่ได้ถึงกับเบ่งตามแต่ก็ต้องช่วยในการเบ่ง เรียกว่าช่วยไปพร้อมๆ กับพยาบาล ถามว่าจุดนั้นรู้สึกถึงความเป็นแม่มั้ย มันก็มีความรู้สึกซาบซึ้งได้เห็นความหัศจรรย์ของมนุษย์ที่พระเจ้าทรงสร้างให้ผู้หญิงสามารถที่จะอุ้มท้องได้ แต่ยังไงก็ตามคงไม่เท่ากับคุณกระติกที่คลอดออกมาเองเพราะคือสายใยจากสายเลือดเขา”


เลี้ยงเองทุกขั้นตอนไหม แตงโม บอกว่า “เรียกว่าช่วยกันในทุกขั้นตอนดีกว่า สลับๆ กันเพราะคุณกระติกเป็นเมนหลักอยู่แล้วเพราะคุณแม่แท้ๆ ก็ต้องให้นมด้วยตัวเอง ส่วนโมจะเป็นคุณแม่เสริมที่จะคอยอำนวยความสะดวกในเวลาที่คุณกระติกยังไม่สะดวก โชคดีที่อีสเตอร์เป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายมากๆ ไม่ร้องเลยนอกจากจะหิวหรือง่วง ตอนแรกกลัวว่าจะเป็นโคลิกมั้ยที่ร้องแบบไม่มีสาเหตุ ปรากฏว่าอีสเตอร์ ไม่เป็นและไม่งอแงเลย โม ค่อนข้างติดน้องเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ได้แสดงออกเท่าไหร่ คิดถึงตลอด วันๆ ก็เปิดดูแต่คลิปลูก กลับบ้านเร็ว นอนเร็ว ต้องชาร์จตัวเองเพื่อที่ว่าน้องตื่นเมื่อไหร่ต้องพร้อมเสมอ เรื่องอาบน้ำ เปลี่ยนแพมเพิร์ส หรืออะไรก็แล้วแต่โมทำเป็นหมดเพราะเรียนตั้งแต่ตอนที่เป็นผู้ช่วยพยาบาลแล้ว ยอมรับว่าตั้งแต่มีน้องเข้ามา ชีวิตของโมและคุณกระติกเปลี่ยนไปมาก คือต้องใจเย็นมากขึ้นเพราะเด็กไม่สามารถพูดได้ ฉะนั้นต้องมีความอดทนมาก”
หลายคนสงสัยว่าทำไมถึงรับอีสเตอร์มาเลี้ยง แตงโมเผยว่า “คุณกระติกเป็นคนที่สนิทกับโมมาก รู้จักกันมา 10 กว่าปีแล้ว เรียกว่าเป็นเพื่อนแท้ อยู่บ้านเดียวกันอยู่ด้วยกันมานานมาก จะมีแค่บางช่วงเองที่แยกกันอยู่ พอดีว่าคุณกระติกเป็นซิงเกิลมัม โมเองพอเลิกกับคุณโน่ (โตโน่) ไปก็เหงาเลยเอาเขามาอยู่เป็นเพื่อน สุดท้ายก็มาทำงานด้วย คือ คุณกระติกเป็นผู้จัดการส่วนตัวของโม การที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวมันทั้งเหนื่อยและเหงา ด้วยความที่เป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้วลูกเขาก็เหมือนลูกโม”
คิดจะรับมาเป็นลูกบุญธรรมให้ถูกต้องตามกฎหมายเลยไหม แตงโมกล่าวว่า “ในเรื่องของเอกสารโมมองว่ามันเป็นแค่กระดาษ ไม่ได้ต้องการที่จะเป็นเจ้าข้าวเจ้าของใคร อีสเตอร์กับคุณกระติกเขาเกิดมาจากสายเลือดเดียวกัน โมไม่ได้ต้องการที่จะไปยึดลูกใครมาเป็นของตัวเอง วันหนึ่งที่เขาโตมาก็มีแม่คนเดียวนั่นแหละค่ะ ส่วนโมเป็นแม่ด้วยความรู้สึกและหัวใจมากกว่า แต่ตั้งใจอยากจะดูแลไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะไม่ต้องการ เมื่อก่อนโมเคยอยากมีลูกของตัวเอง แต่พอมีอีสเตอร์แล้วเขาเติมเต็มได้ครบถ้วนจริงๆ คุณพ่อโมก็หลงอีสเตอร์มาก ตอนนี้ต้องบอกก่อนว่าบ้านโมที่อยู่ด้วยกันกับคุณพ่อและคุณกระติกด้วยกำลังต่อเติมอยู่เพื่อให้น้องได้มีพื้นที่ได้เล่นในอนาคต แล้วแมวกับน้องไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ก็ต้องทำบ้านแมวใหม่ด้วย”


แล้วทางคุณพ่อแท้ๆ ของน้องอีสเตอร์ได้มีการติดต่อมาบ้างไหม แตงโมกล่าวว่า “มีการติดต่อมาบ้าง เขาก็ไม่ได้ถึงกับเกลียดขี้หน้ากันเพราะทุกคนก็คำนึงถึงการที่ลูกจำเป็นจะต้องมีพ่อและแม่”
ถือเป็นคุณแม่ที่ตามใจไหม “คุณกระติกจะตามใจกว่า ด้วยความที่เขาเป็นแม่อย่างสุดหัวใจ เวลาลูกร้องแอะเดียวก็จะสงสาร ส่วนโมจะได้ลูกลุยๆ มาจากคุณพ่อเยอะเลยจะตามใจน้อยกว่าค่ะ” แตงโมกล่าว