สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคน เมื่อไม่นานมานี้พี่ได้บังเอิญไปเห็นกระทู้เด็กดีของน้องคนนึงที่ได้เล่าถึงการสอบติดทุนเต็มจำนวนที่ ‘City University of Hong Kong’ มหาวิทยาลัยชั้นนำที่ถูกจัดให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 52 ของโลกตามการจัดอันดับของ QS Top Universities ปีล่าสุด บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งมอที่น่าเรียนต่อมากๆ เพราะนอกจากจะการันตีคุณภาพได้ด้วยรางวัลด้านวิชาการและงานวิจัยแล้ว มหาวิทยาลัยแห่งนี้ยังมีทุนเรียนฟรีให้กับชาวต่างชาติอีกด้วย วันนี้พี่ปุณเลยจะอาสาพาน้องๆ ไปทำความรู้จักกับสถาบันนี้ให้ดียิ่งขึ้น ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย!

Photo credit: https://www.cityu.edu.hk/student-life
City University of Hong Kong (CityU) เป็นสถาบันชั้นนำระดับโลกที่มีชื่อเสียงด้านการศึกษาและเชี่ยวชาญด้านการพัฒนางานวิจัย มหาวิทยาลัยแห่งนี้เปิดพื้นที่ให้กับนักศึกษาที่มีความสนใจและอยากเรียนรู้ในเรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะมาช่วยเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น โดยประเด็นปัญหาที่ CityU ให้ความสำคัญก็จะมีอยู่ทั้งหมด 3 ประเด็นหลัก ได้แก่
- ‘One Health’ งานวิจัยด้านสุขภาพที่เสนอวิธีการแก้ไขปัญหาสุขภาพแนวทางใหม่ โดยรวมเอาการปฏิบัติด้านสุขภาพคน สุขภาพสัตว์ และสุขภาพสิ่งแวดล้อมเข้าไว้ด้วยกันเพื่อการมีสุขภาพที่ดีในองค์รวม
- ‘Smart City’ หรือเมืองอัจฉริยะ เมืองที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยและชาญฉลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการและการบริหารจัดการให้ประชาชนทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขกันถ้วนหน้า
- ‘Digital Society’ หรือเศรษฐกิจแบบดิจิทัล การขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตและสร้างมูลค่าให้แก่สินค้าและบริการ

Photo credit: https://www.cityu.edu.hk/research
จะเห็นได้ชัดเลยว่าการศึกษาของมหาวิทยาลัยนี้มีเป้าหมายมุ่งไปที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและการแก้ปัญหาที่โลกต้องเผชิญมาอย่างยาวนาน งานวิจัยแต่ละอย่างนี่นอกจากจะมีประโยชน์ต่อสังคมแล้ว ยังทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นได้อีกด้วยค่ะ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาสถาบันแห่งนี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก อีกทั้งในปี 2019 CityU ยังถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 1 จากการจัดอันดับของ ‘The UTD Top 100 Business School Research’ อีกด้วย ใครอยากเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็ขอให้มั่นใจในคุณภาพได้เลย!

Photo credit: https://www.cityu.edu.hk/research
หลักสูตรที่เปิดสอน
ในส่วนของหลักสูตรที่เปิดสอน สถาบันแห่งนี้ก็จะมีตั้งแต่ระดับปริญญาตรี หลักสูตรการสอนหลังจบการศึกษา (Taught Postgraduate) และหลักสูตรการวิจัยที่มีให้เลือกทั้งแบบ Professional Doctorate และ Research Degree แต่ยังไงวันนี้พี่จะขอโฟกัสไปที่ระดับปริญญาตรีก่อนนะคะ
การเรียนการสอนของที่นี่แบ่งออกเป็น 10 สาขาหลัก ได้แก่
- College of Business (CB)
- College of Engineering (CENG)
- College of Liberal Arts and Social Sciences (CLASS)
- College of Science (CSCI)
- Jockey Club College of Veterinary Medicine and Life Sciences
- School of Creative Media (SCM)
- School of Data Science (SDSC)
- School of Energy and Environment (SEE)
- School of Law (SLW)
- Chow Yei Ching School of Graduate Studies (SGS)
เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีสาขาให้เลือกเรียนได้หลากหลายเลยค่ะ ใครสนใจหรืออยากจะพัฒนาทักษะความสามารถด้านไหนก็เลือกเรียนได้ตามใจชอบเลย และนอกจาก 10 สาขาหลักที่ได้พูดถึงไปแล้ว แต่ละคณะก็ยังมีสาขาแยกย่อยอีกเพียบ ถ้าอยากรู้ว่ามีสาขาอะไรบ้างก็ตามไปดูต่อได้ที่นี่เลย
ต้องบอกก่อนว่าหลักสูตรปริญญาตรีของ CityU จะแบ่งออกเป็น 3 ภาคการศึกษา ได้แก่ ภาคการศึกษา A ที่จะเริ่มเรียนประมาณเดือนสิงหาคมหรือกันยายน ภาคการศึกษา B ที่จะเริ่มเรียนในเดือนมกราคม และการศึกษาภาคฤดูร้อน ซึ่งในแต่ละเทอมสาขาที่เปิดสอนก็จะแตกต่างกันไปตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด ดังนั้นถ้าใครมีเป้าหมายแล้วว่าอยากจะเข้าเรียนต่อในด้านไหนก็อย่าลืมเช็กตารางเรียนทางเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยให้ดีก่อนนะคะ

Photo credit: https://www.cityu.edu.hk/admissions/ug
การสมัครเรียน
ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการการสมัครเรียนใดๆ พี่ก็ขอแนะนำให้น้องๆ สร้าง ‘Application Account’ กับทางมหาวิทยาลัยไว้ก่อนเลย เพราะเมื่อมี account เป็นของตัวเองแล้ว เราก็จะสามารถเข้าไปดูโปรแกรมการเรียนการสอนต่างๆ และสามารถสมัครเรียนได้ทางออนไลน์เลยค่ะ โดยเอกสารและผลการสอบวัดระดับที่นักศึกษาชาวต่างชาติอย่างเราต้องใช้ ได้แก่
- ใบประมวลผลการศึกษาหรือใน Transcripts
- ผลการทดสอบวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษ TOEFL iBT (ไม่ต่ำกว่า 79), IELTS (ไม่ต่ำกว่า 6.5), หรือ SAT (ไม่ต่ำกว่า 590)
- ใบประกาศนียบัตรหรือรางวัลที่เคยได้รับ (ถ้ามี)

Photo credit: https://www.cityu.edu.hk/admissions/ug
Student life
ชีวิตมหา’ลัยไม่หยุดแค่การเรียน
นอกจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้จะโดดเด่นด้านวิชาการและงานวิจัยแล้ว ด้านกิจกรรมเขาก็ไม่มีแผ่วเหมือนกันนะคะ มาเริ่มกันที่กิจกรรมสานสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษา ด้วยความที่ CityU เปิดกว้างให้นักศึกษาจากต่างประเทศเข้ามาศึกษาหาความรู้ ที่นี่จึงเป็นเหมือนแหล่งรวมความหลากหลายทั้งทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม และภาษา ซึ่งช่วงเวลาของกิจกรรมนี่แหละค่ะที่จะทำให้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยมีโอกาสได้ทำความรู้จักและแบ่งปันประสบการณ์ถึงกันได้ง่ายที่สุด

มาต่อกันกับกิจกรรมด้านกีฬา ที่สถาบันแห่งนี้เขามีทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ สนามบาส ห้องตีปิงปอง แถมยังมีศูนย์กีฬาที่นักศึกษาทุกคนสามารถเข้าไปใช้งานได้อีกด้วย และสำหรับใครที่มีใจรัก แต่ยังเล่นไม่ได้สักกีฬาก็ไม่ต้องกังวลไปเลยค่ะ เพราะว่าที่นี่มีคอร์สสอนกีฬาให้เลือกเรียนได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นยิงธนู แอโรบิก กอล์ฟ ฟันดาบ โยคะ เรือพาย และอีกมากมายนับไม่ถ้วนเลยค่ะ ส่วนใครที่เป็นนักกีฬามาอยู่แล้ว ทางมหา’ลัยเขาก็จะฟอร์มทีมให้ เพื่อที่จะได้สามารถฝึกซ้อมและออกไปแข่งขันกีฬาภายนอกได้ค่ะ

อีกหนึ่งกิจกรรมแสดงความสามารถที่ขาดไม่ได้ก็คือ ‘CityU Arts Festival’ เทศกาลงานศิลปะที่จะรวบรวมทั้งละครเวที งานแสดงดนตรี และการร้องประสานเสียง นอกจากกิจกรรมเหล่านี้จะเป็นกิจกรรมที่สร้างสีสันให้กับมหาวิทยาลัยแล้ว ยังช่วยทำให้นักศึกษาแต่ละคนได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับเพื่อนคนอื่นอีกด้วยค่ะ

Photo credit: http://www.cityu.edu.hk/ctspc/ctspc.shtml
และนอกจากกิจกรรมภายใน CityU ก็ยังมี ‘โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน’ และ ‘Summer and Winter Program’ ที่จะเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ออกไปเจอผู้คนใหม่ๆ ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ และได้รับประสบการณ์ที่จะสามารถนำมาต่อยอดในการศึกษาและพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่มีประโยชน์มากเลยค่ะ

ค่าเล่าเรียน
สำหรับค่าเล่าเรียนในหลักสูตรปริญญาตรีของนักศึกษาต่างชาติจะอยู่ที่ 140,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 4,400,000 บาทต่อปีนั่นเอง ส่วนใครที่อยากเลือกเรียนมากกว่า 1 สาขาหรือต้องการเพิ่มหน่วยกิตในแต่ละภาคการศึกษาก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมต่างหากด้วยค่ะ ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ยังไม่รวมค่าหอพักและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในชีวิตประจำวันนะคะ
Scholarships
ทุนเรียนดี + มีความสามารถสำหรับนักศึกษาต่างชาติ
สำหรับใครที่ต้องการไปเรียนต่อแต่ยังคงกังวลเรื่องค่าเทอมและค่าใช้จ่ายต่างๆ ทางมหาวิทยาลัยเขาก็มีทุนไว้สนับสนุนนักศึกษาต่างชาติที่เรียนดีหรือมีความสามารถด้วยค่ะ โดยทุนที่ว่าสามารถแบ่งได้เป็น 5 ประเภทหลัก
- Top Scholarship ทุนครอบคลุมค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน ค่าหอพัก และค่าใช้จ่ายบางส่วน (HK$180,000 หรือประมาณ 730,000 บาท)
- Full Scholarship ทุนครอบคลุมค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน (HK$140,000 หรือประมาณ 570,000 บาท)
- Half Scholarship ทุนครอบคลุมค่าเล่าเรียนครึ่งหนึ่ง (HK$70,000 หรือประมาณ 280,000 บาท)
- Diversity Grant ทุนที่จะมอบให้กับนักศึกษาต่างชาติที่เข้าร่วมกิจกรรมตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด ซึ่งคนที่ได้รับทุนข้อ 1 – 3 ไปแล้วจะไม่มีสิทธิได้รับทุนนี้อีก (HK$120,000 หรือประมาณ 480,000 บาท)
- Outstanding Athletes Entrance Scholarship ทุนสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่มีความสามารถพิเศษทางด้านกีฬา โดยทางมหาวิทยาลัยจะมีการพิจารณาทุนที่จะได้รับตามระดับความสามารถของแต่ละบุคคลอีกทีค่ะ
และนอกจากทุนของมหา’ลัยที่พี่ได้พูดถึงไปข้างต้นแล้ว ทางรัฐบาลฮ่องกงก็ยังมีทุนสนับสนุนเพิ่มเติมให้กับนักศึกษาชาวต่างชาติอีกด้วยค่ะ น้องๆ คนไหนอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูได้ที่นี่เลยค่ะ

Photo credit: https://www.cityu.edu.hk/student-life
ต้องบอกเลยว่า City University of Hong Kong ถือเป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยของฮ่องกงที่น่าสนใจและน่าไปศึกษาต่อมากกก เพราะนอกจากมหาวิทยาลัยนี้จะมีชื่อเสียงทั้งในด้านวิชาการและงานวิจัยที่มีคุณภาพและได้รับรางวัลมากมายแล้ว ที่นี่ยังมีมุมมองและเป้าหมายที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาและพัฒนาสังคมให้ก้าวหน้าและทันสมัยอีกด้วยค่ะ น้องๆ คนไหนชอบหรือสนใจอยากไปเรียนต่อเหมือนพี่ละก็สามารถเข้าไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมทางเว็บไซต์นี้ได้เลย! https://www.cityu.edu.hk
ที่มา : www.dek-d.com