เริ่มวิชาภาษาไทยก่อน/นำแนวข้อสอบขึ้นเว็บไซต์/ยันตรวจทันประกาศผล สทศ.พร้อมจัดสอบโอเน็ตเด็ก ป.6 วิชาภาษาไทย รูปแบบอัตนัย บอกแนวข้อสอบขึ้นเว็บไซต์ ทั้งตัวอย่างข้อสอบ กระดาษคำตอบ คำแนะนำการเขียน เกณฑ์การตรวจ โดยระดมครูภาษาไทย 2,500 คนตรวจข้อสอบประกาศผลทันตามปฏิทินเดิม มั่นใจไม่มีปัญหา นายสัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (ผอ.สทศ.) กล่าวว่า จากที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้มีนโยบายให้ สทศ.เริ่มใช้ข้อสอบอัตนัย ร้อยละ 20 ในแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 วิชาภาษาไทยนั้น ขณะนี้ สทศ.ได้ขึ้นคุณลักษณะเฉพาะวิชาภาษาไทยรูปแบบอัตนัยแบบเขียนไว้ในเว็บไซต์ของ สทศ.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะระบุรายละเอียดต่างๆ อย่างลักษณะเฉพาะของแบบทดสอบโอเน็ต กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยรูปแบบใด แบบเขียนตอบ ตัวอย่างข้อสอบ ตัวอย่างกระดาษคำตอบ และตัวอย่างการเขียนตอบในรูปแบบอัตนัย เกณฑ์การตรวจกระดาษคำตอบอัตนัย และคำแนะนำการเขียนอีกด้วย และในการสอบโอเน็ตครั้งนี้จะมีข้อสอบรูปแบบปรนัย 32 ข้อ และอัตนัย 2 ข้อ ข้อละ 10 คะแนน โดยข้อที่ 1 จะวัดเกี่ยวกับการเล่าเรื่องจากภาพแบบจินตนาการสร้างสรรค์ 4-7 บรรทัด และข้อที่ 2 จะเป็นการสรุปใจความจากเนื้อหาที่กำหนดให้ ไม่เกิน 3 บรรทัด โดยก่อนหน้านี้ตนก็ได้เดินทางไปชี้แจ้งและรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะการสอบอัตนัยแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว สำหรับการตรวจข้อสอบอัตนัย สทศ.ได้อบรมและพัฒนาครูผู้สอนภาษาไทยที่จะทำหน้าที่ตรวจข้อสอบไว้จำนวน 2,500 คน และต้องผ่านการทดสอบด้วย โดยการตรวจ ผู้ตรวจข้อสอบจะไม่สามารถเห็นชื่อว่าคำตอบนั้นเป็นของใคร 1 ข้อตรวจมากกว่า 1 คน และหากคะแนนมีความเบี่ยงเบนกันมาก ก็ใช้บุคคลที่ 3 เข้ามาช่วยเป็นผู้ตรวจสอบ ทั้งนี้ ระยะเวลาการประกาศผลสอบขณะนี้ สทศ.ยังคงเป็นไปตามกำหนดเดิมคือ 25 มีนาคม 2560 เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความกังวลหากมีกรณีร้องเรียนเรื่องของสอบอัตนัยมา นายสัมพันธ์กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกกังวล เพราะข้อสอบ สทศ.เป็นไปตามหลักของวิชา และได้ผ่านการทำประชาพิจารณ์จากผู้ที่เกี่ยวข้องและมีส่วนได้-ส่วนเสียเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งหลักเกณฑ์ต่างๆ รูปแบบข้อสอบ สทศ.ก็ประกาศอย่างชัดเจน ซึ่งสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.niets.or.th ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันอังคารที่ 13 ธันวาคม 2559
อ่านต่อได้ที่: http://www.kruwandee.com/news-id33591.html