บิ๊กโจ๊ก หิวแสง ห้ามยุ่งคดีกำนันนก หวั่นซ้ำรอยทัวร์ศูนย์เหรียญ
รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ บิ๊กโจ๊ก หิวแสง ห้ามยุ่งคดีกำนันนก หวั่นซ้ำรอยทัวร์ศูนย์เหรียญ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งโอนคดีกำนันนก ให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ดูแลทั้งหมด และส่งผลให้ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ต้องหมดหน้าที่ในคดีนี้โดยปริยาย
คำสั่งนี้นับว่าชอบแล้ว เหตุเพราะในความขึงขังโครมครามของ บิ๊กโจ๊ก ที่เข้ามาคุมคดีกำนันนก ในช่วงที่ผ่านมานั้น มีคนที่มองว่า บิ๊กโจ๊ก ยังทำงานอย่างโฉ่งฉ่างและผิดพลาด
คนนั้นก็คือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อใหญ่ วิจารณ์บิ๊กโจ๊กแบบตรงไปตรงมาว่า ทำคดีกำนันนก ในแบบคนหิวแสงมากเกินไป
โดยชี้สาเหตุแห่งความหิวแสง เพราะช่วงนี้ เป็นช่วงเข้าด้ายเข้าเข็ม ของการชิงเก้าอี้ ผบ.ตร. ระหว่างบิ๊กโจ๊ก กับบิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.
บิ๊กโจ๊กเลยใช้คดีนี้ ในกระโจนเข้าหาแสง พลิกวิกฤตขององค์กรตำรวจ เป็นโอกาสในการสร้างชื่อก่อนจะตั้งผบ.ตร.คนที่14 ในปลายเดือนนี้
นายสนธิชี้ว่า ที่ผ่านมา บิ๊กโจ๊กเปิดเผยเบื้องลึกของสำนวนการสอบสวน จนเกินพอดี ซึ่งอาจผลเสียต่อรูปคดี
นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมเหมือนต้องการช่วยเหลือนายตำรวจทั้งหลาย ที่โผล่ไปร่วมงานปาร์ตี้ของกำนันนก จำนวนมากถึง 28 นาย
โดยแค่สั่งย้ายพ้นจากตำแหน่ง โดยไม่ได้สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ทั้งที่แต่ละนาย ล้วนมีพฤติกรรมเสื่อมเสียต่อองค์กรตำรวจอย่างร้ายแรง
“ผมไม่ได้ต้องการให้คุณสุรเชษฐ์เดินผิดทาง เพราะเวลาที่มีแสงอะไรเข้ามา คุณสุรเชษฐ์จะเป็นคนแรกที่เดินเข้าหาแสงทันทีเลย” นายสนธิฝากถึงบิ๊กโจ๊ก
การไม่จัดการเด็ดขาดกับตำรวจในงานเลี้ยง และนำความลับในสำนวนมาเล่าให้สื่อมวลชนฟัง คือข้อบกพร่องร้ายแรง 2 เรื่องของบิ๊กโจ๊ก ในมุมมองของนายสนธิ ลิ้มทองกุล
ที่ผ่านมา รูปคดีสังหารสารวัตรแบงค์ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว จากปากของบิ๊กโจ๊ก ก็มีความแปลกแปร่งชอบกล
เมื่อออกมายืนยันซะอย่างนั้นว่า ปมสังหารสารวัตรแบงค์ เป็นแค่เรื่องที่กำนันนก นายประวีณ จันทร์คล้าย ฝากโยกย้ายหลาน แล้วถูกปฏิเสธซึ่งหน้า
อ้างว่า สอบแล้วเป็นแค่เรื่องฝากหลาน ไม่ใช่เรื่องส่วยตำรวจทางหลวงแต่อย่างใด
คำพูดของบิ๊กโจ๊ก เล่นเอารูปคดีพลิก ตำรวจใหญ่น้อยในงานปาร์ตี้ กลายเป็นคนดีขึ้นมาอย่างฉับพลัน
ทั้งที่ตอนนี้ ข้อเท็จจริงในการสอบสวนเป็นที่แน่ชัดแล้ว ว่าสาเหตุหลักจริงๆ คือส่วยอย่างแน่นอน
โดยสารวัตรแบงค์ ปฏิเสธข้อเสนอของกำนันนกมาตลอด นับแต่ถูกส่งตัวมาเพื่อปราบปรามส่วยรถบรรทุกที่นครปฐม โดยเฉพาะ
การลุยจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินอย่างไม่ไว้หน้า ของสารวัตรแบงค์ สร้างความเสียหายให้ธุรกิจของกำนันนก และเครือข่ายรถบรรทุกมาตลอด
กำนันนกจึงเลือกใช้วิธีการที่ตำรวจนายอื่นๆ แพ้ทางตลอดเช่นกัน คือการใช้เงินฟาดหัว
ขนาดให้ “ผู้กำกับเบิ้ม” พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ช่วยเรียกตัวสารวัตรแบงค์ ให้มาพบในงานปาร์ตี้ เพื่อโน้มน้าวกันในวงเหล้า ก็น่าจะพูดกันง่ายที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่วายโดนปฏิเสธอยู่ดี
เรื่องฝากฝังหลาน จึงเป็นแค่เรื่องรอง ผสมปนเปไปกับการดวลเหล้าช็อตต่อช็อต ระหว่างกำนันนก และสารวัตรแบงค์ แล้วผลสุดท้าย กำนันนกก็เป็นฝ่ายแพ้ พาลรู้สึกเสียหน้าซ้ำอีก
จนถูกคำพูดกระตุ้นความโกรธจากสารวัตรแบงค์ ก็คือ “กำนันสู้ผมไม่ได้” กำนันนกเลยเรียก “หน่อง ท่าผา” มือปืนคู่ใจไปสั่งการ ให้ลงมือฆ่าทันที
คำพูดที่ว่า “กำนันสู้ผมไม่ได้” ในความรู้สึกของกำนันนก อาจไม่ได้มีความหมายแค่การดวลเหล้าแพ้ชนะกัน
แต่กินความหมายกว้างไกล เหมือนบอกให้ตัวกำนันนกได้รู้สำนึก ถึงอย่างไรก็จะโดนสารวัตรแบงค์จัดการ อย่างไม่ละเว้นแน่
ในส่วนของบิ๊กโจ๊ก เมื่อถูกท้วงติงในการทำงานอย่างแรงจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็ถูกถอดจากการทำคดีทันที
เจ้าตัวจึงเปิดแถลงยุติบทบาท พร้อมสั่งการให้โอนสำนวนในมือของตำรวจภูธรภาค 7 ให้กองปราบปราม รับช่วงไป
ซึ่งต้องบอกว่าดีแล้วที่กันบิ๊กโจ๊ก ออกไปจากคดีกำนันนก เพราะหากย้อนไปถึงผลงานเก่าๆ ของเขา อย่างการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ
ผลสุดท้ายในชั้นศาลฎีกา บรรดาจำเลยต่างรอดข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรและฟอกเงินกันทุกราย เพราะสำนวนอ่อนปวกเปียก
ไม่แข็งปึ้กเหมือนตอนบิ๊กโจ๊ก ออกข่าวโครมครามแต่อย่างใด
แหล่งที่มา
รับจดทะเบียนบริษัท,รับทำบัญชี,รับจดทะเบียนบริษัท ราคาถูก,รับจดทะเบียนบริษัท ทั่วไทย,รับจดทะเบียน ออนไลน์,รับจดทะเบียนบริษัท ต่างชาติ,รับจดทะเบียนบริษัท ด่วน,รับจดทะเบียนบริษัท ร้านค้า,รับจดทะเบียนบริษัท คนเดียว , รับจดทะเบียนบริษัท ที่ไหน , รับจดทะเบียนบริษัท ช่วงโควิด-19 , รับจดทะเบียนบริษัท ท่องเที่ยว , รับจดทะเบียนบริษัท ก่อสร้าง , จดทะเบียนบริษัท ที่ไหนดี , จดทะเบียนบริษัท ทำอย่างไร