คืบหน้า รพ.เกาะดังขู่ยึดพาสปอร์ต! ล่าสุดผู้บริหารออกมาขอโทษ และคืนเงินให้แหม่มอังกฤษ

คืบหน้า รพ.เกาะดังขู่ยึดพาสปอร์ต! ล่าสุดผู้บริหารออกมาขอโทษ และคืนเงินให้แหม่มอังกฤษ

คืบหน้า รพ.เกาะดังขู่ยึดพาสปอร์ต! ล่าสุดผู้บริหารออกมาขอโทษ และคืนเงินให้แหม่มอังกฤษ

Workpint TV

สนับสนุนเนื้อหา

เฟซบุ๊กร้องแทนฝรั่ง โรงพยาบาลเอกชนบนเกาะพะงันเรียกค่ารักษาแพง นักท่องเที่ยวไม่มีเงินจ่ายขู่จะ และแจ้งตำรวจดำเนินคดี สุดท้ายผู้บริหารโรงพยาบาลทราบเรื่องสั่งคืนเงิน พร้อมขอโทษที่บริการไม่ประทับใจ สร้างความดีใจให้กับแหม่มอังกฤษ

เมื่อเวลา 17.00น. วันที่ 12 ธันวาคม 2559 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าในเฟซบุ๊ก เพจชื่อว่า Drama-addict (ดราม่า-แอดดิค) ได้เขียนข้อความว่า

“มีคนร้องเรียนมาบอกว่าเพื่อนเป็นชาวต่างชาติ มาเที่ยวไทย ไม่สบายเข้าโรงพยาบาล แอดมิทสองวันโรงพยาบาล คิดค่ารักษาประมาณแสนนึง นักท่องเที่ยวไม่มีเงินจ่าย จึงถูกยึดพาสปอร์ตไว้จนกว่าจะยอมจ่ายค่ารักษา ตอนนี้ประสานงานกับสื่อเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวคงได้เห็นข่าวกันเร็วๆ นี้

“หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรลงมาแก้ไขปัญหานี้ได้แล้ว …เรื้อรังมานานมากแล้วนะ แทนที่จะรักษาฝรั่งในราคาที่ยอมรับได้ …ขูดเลือดขูดเนื้อแบบกะตั้งตัวหนเดียวเลย สุดท้ายก็ได้เงินหนเดียว แล้วเขาก็จะไม่กลับมาอีกเลย แถมด้วยชื่อเสียของประเทศที่จะลือกระฉ่อนกันไปนานเท่านาน”

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ตรวจสอบพบว่า แหม่มสาวรายนี้ทราบชื่อว่า Miss Troy Louise rebecca อายุ 36 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เดินทางมาท่องเที่ยวพร้อมกับครอบครัวที่เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และกำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน ได้มีอาการเจ็บช่องคลอดและหน้ามืดเป็นลม จึงได้พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2559 และถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าวเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา

หลังจากรักษาแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ในวันเดียวกัน โดยทางโรงพยาบาลเรียกค่ารักษาเป็นจำนวนเงิน 103,319 บาท และแจ้งว่าใช้สิทธิประกันไม่ได้ เพราะไม่ครอบคลุมคนท้อง ต้องชำระค่ารักษาทั้งหมด แต่เเหม่มอังกฤษมีเงินไม่พอจ่ายและขอให้ลดหย่อน โดยเบื้องต้นได้จ่ายไปก่อน 2 หมื่นบาท พร้อมกับให้พาสปอร์ตไว้

แต่มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฝ่ายต่างประเทศ ซึ่งเป็นชาวต่างชาติแจ้งว่า หากไม่ชำระให้ครบทั้งหมดจะต้องยึดพาสปอร์ตและถูกแจ้งความดำเนินคดี โดยที่นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวมีกำหนดเดินทางกลับประเทศอังกฤษในวันที่ 11 ธ.ค. 59 นี้ ซึ่งยังไปไหนไม่ได้จนกว่าจะมีเงินมาชำระทั้งหมด จนมีเพื่อนคนไทยได้ขอความช่วยเหลือไปยังตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามข้อเท็จจริงกับประธานบริหารโรงพยาบาลดังกล่าว ก็ได้รับคำบอกเล่าว่า คนไข้รายนี้ที่เข้ามารักษาตัวด้วยอาการมีเลือดออกในช่องคลอด 2 วัน มีอาการหน้ามืด ตั้งครรภ์ได้ 10 สัปดาห์ แพทย์เฉพาะทางที่ตรวจรักษาเป็นห่วงเรื่องผลข้างเคียงทางสูติกรรม ทำการตรวจอัลตร้าซาวด์และได้สรุปการวินิจฉัยว่า เป็นภาวะแท้งคุกคาม

จากการรักษาไม่พบภาวะแทรกซ้อนจึงได้ให้คนไข้กลับบ้านได้ โดยมีค่ารักษาอยู่ที่ 100,000 บาท แต่ประกันของคนไข้ไม่ครอบคลุมคนท้อง ทำให้ต้องจ่ายค่ารักษาทั้งหมด คนไข้ไม่มีเงินจ่ายทางโรงพยาบาลฯ ก็ลดให้ร้อยละ 50 เหลืออยู่ที่ 50,000 บาท คนไข้ก็บอกมาว่ามีเงินอยู่แค่ 20,000 บาท ทางโรงพยาบาลก็เก็บแค่ 20,000 บาทก่อน ส่วนอีก 30,000 บาทให้มาจ่ายภายหลัง โดยที่ทางโรงพยาบาลฯ ต้องขอเก็บพาสปอร์ตของคนไข้ไว้ เพราะคนไข้มาจากต่างประเทศ ก็ไม่รู้ว่าจะเดินทางกลับประเทศตอนไหน

และเมื่อคนไข้ไปที่เกาะพะงัน ทางแผนกต่างประเทศของโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง ก็ได้ประสานงานเรื่องเก็บเงินค่ารักษาพยาบาลส่วนที่เหลือ ก็มีเจ้าหน้าที่ที่เป็นชาวต่างชาติของโรงพยาบาลไปพูดในลักษณะที่ทำให้คนไข้ไม่พอใจ โดยไปพูดว่า ถ้าหากไม่มาชำระเงินส่วนที่ค้างอยู่ก็จะไปแจ้งความ ทำให้คนไข้ไม่พอใจคำนี้จนเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา

ประธานบริหารโรงพยาบาลยังกล่าวอีกว่า หลังจากทราบเรื่อง ถ้าคนไข้ไม่มีเงินจริงๆ เงิน 20,000 บาทที่จ่ายมาก็ไม่เอา เนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติของเราเองพูดไม่เพราะกับคนไข้ ซึ่งไม่ใช่นโยบายของทางโรงพยาบาล และจะให้เจ้าหน้าที่คนนี้มาขอโทษคนไข้ ถ้าไม่ขอโทษทางโรงพยาบาลก็จะให้ออก ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลก็จะคืนเงิน 20,000 บาทพร้อมกับพาสปอร์ตให้กับคนไข้