อันยองครับน้องๆ ชาว Dek-D ปีนี้พอเกิดโควิด-19 ทำให้ช่วงนึงหลายคนต้องกักตัวอยู่บ้าน พี่เองก็เหมือนกันครับ 5555 พอเบื่อๆ ไม่ได้ไปไหนก็เลยหาคอร์สออนไลน์เรียนภาษาเกาหลีเพื่ออัปสกิลสักหน่อย พอเรียนจบคอร์สก็เลยไปลองสอบ TOPIK หรือการสอบวัดระดับภาษาเกาหลีมาสดๆ ร้อนๆ เลยครับ วันนี้ก็เลยจะมารีวิวข้อสอบ TOPIK1 (ระดับพื้นฐาน) ให้น้องๆ ที่เตรียมตัวสอบรอบหน้าได้อ่านกันครับ
ข้อมูลจาก ศูนย์การศึกษาเกาหลี ประจำประเทศไทย
ใครบ้างที่ต้องสอบ TOPIK
1. คนที่เรียนภาษาเกาหลี แล้วอยากลองทดสอบดูว่าตัวเองอยู่ในระดับไหน
2. คนที่จะสมัครเรียนต่อที่เกาหลี/สมัครทุนมหาวิทยาลัย/ทุนรัฐบาลเกาหลี
3. คนที่ทำงานในบริษัทเกาหลี/หน่วยงานรัฐบาล/ หรืองานที่ใช้ภาษาเกาหลี เช่น ครู, ล่าม, แอร์โฮสเตส, นักการทูต ฯลฯ
4. ผู้ที่จะไปทำงานเป็นแรงงานแบบถูกกฎหมายที่เกาหลี
5. ผู้ที่ต้องขอวีซ่าอาศัยอยู่ที่เกาหลีแบบถาวร
วิธีการสมัคร
โดยปกติแล้วการสอบ TOPIK นั้นจะจัดสอบปีละประมาณ 3 ครั้ง (แบ่งเป็นรอบเดือนสิงหาคม, ตุลาคม, พฤศจิกายน) ซึ่งจะทำการรับสมัครทางออนไลน์ผ่านระบบรับสมัครสอบของศูนย์การศึกษาเกาหลี ประจำประเทศไทยเท่านั้น ที่เว็บไซต์ http://topik.thaijobjob.com โดยน้องๆ แค่กรอกข้อมูล พร้อมอัปโหลดรูปถ่าย และรูปบัตรประชาชน (หรือพาสปอร์ต, ใบขับขี่) ทางระบบการสมัคร จากนั้นก็นำรหัสไปจ่ายเงินค่าสมัครสอบได้เลย ง่ายมากๆ
ค่าสมัครสอบ
• TOPIK Ⅰ (ระดับ 1~2) 900 บาท
• TOPIK Ⅱ (ระดับ 3~6) 1,000 บาท
สถานที่จัดสอบ TOPIK มีที่ไหนบ้าง
- กรุงเทพมหานคร : ศูนยการศึกษาเกาหลีประจําประเทศไทย (โรงเรียนหอวัง)
- สงขลา : โรงเรียนวรนารีเฉลิม สงขลา
- เชียงใหม : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
- มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
- พิษณุโลก : มหาวิทยาลัยนเรศวร
- นครปฐม : มหาวิทยาลัยศิลปากร
- นครพนม : โรงเรียนเรณูนครวิทยานูล
รอบล่าสุดที่พี่สอบคือ ครั้งที่ 73 สอบที่โรงเรียนหอวัง (วิธีเดินทาง ขึ้น BTS ลงสถานีห้าแยกลาดพร้าว ทางออก 3 แล้วเดินเลาะรั้วห้างเซนทรัลลาดพร้าวมาเลย โรงเรียนจะอยู่ตรงข้ามถนนครับ) ส่วนวันสอบก็แค่เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน และเตรียมเทปลบคำผิดติดตัวมาด้วย (จริงๆ ทางสนามสอบมีให้ยืมแต่พกเองจะอุ่นใจกว่า) ส่วนปากกาเมจิกสีดำทางสนามสอบเตรียมไว้ให้ฟรี ไม่ต้องซื้อมาเอง แถมเอากลับบ้านเป็นที่ระลึกได้ด้วย 55555
ข้อมูลจาก ศูนย์การศึกษาเกาหลี ประจำประเทศไทย
รู้จักข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับการสอบ TOPIK กันไปพอหอมปากหอมคอแล้วเนอะ ว่าแล้วเรามาดูตัวข้อสอบกันดีกว่าว่าเป็นยังไง และออกสอบเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งที่จะรีวิววันนี้จะเป็นเฉพาะ TOPIK1 นะครับ (เอาเฉพาะเท่าที่จำได้นะ 55555)
และเมื่อสอบเสร็จก็สามารถนำกลับบ้านเป็นที่ระลึกได้
ข้อสอบออกอะไรบ้าง
ข้อสอบ TOPIK1 จะแบ่งเป็น 2 พาร์ต มีทั้งหมด 70 ข้อ แบ่งเป็น
- การฟัง จำนวน 30 ข้อ เวลา 40 นาที
- การอ่าน จำนวน 40 ข้อ เวลา 60 นาที
พาร์ตการฟัง (듣기)
ข้อสอบพาร์ตการฟังจะมีทั้งหมด 30 ข้อ ใช้เวลา 40 นาที โดยแต่ละบทจะเปิดให้ฟังซ้ำ 2 รอบ ว่าแล้วเลยขอยกตัวอย่างจากข้อสอบจริงที่จัดสอบเมื่อครั้งที่ 64 มาประกอบนะครับ
ข้อ 1-4 จะเป็นบทสนทนาถามตอบง่ายๆ เช่น อะไร (뭐), ที่ไหน (어디), เมื่อไหร่ (언제) และ ใคร (누구) พยายามจับคีย์เวิร์ดให้ได้
ข้อ 5-6 บทสนทนาสั้นๆ ถ้าอีกคนพูดแบบนี้ เราควรจะตอบกลับไปอย่างไรบ้าง ยกตัวอย่างสำนวนที่ออกข้อสอบบ่อยๆ เช่น
- 천만에요. ไม่เป็นไรค่ะ/ครับ (ตอบรับคำขอบคุณ)
- 뵙겠습니다. แล้วพบกันใหม่ (สุภาพมากๆๆ)
- 실례합니다 ขอโทษนะคะ/ครับ (ฟีลเดียวกับ Excuse me)
ข้อ 7-10 ฟังบทสนทนาแล้วเดาว่าเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นที่ไหน? ยกตัวอย่างคำศัพท์ที่ออกบ่อยๆ เช่น
- 꽃집 – ร้านขายดอกไม้
- 빵집 – ร้านเบเกอรี่
- 약국 – ร้านขายยา
- 서점 – ร้านขายหนังสือ
- 도서관 – ห้องสมุด
- 식당 – ร้านอาหาร
- 교실 – ห้องเรียน
- 공항 – สนามบิน
- 우체국 – ไปรษณีย์
- 백화점- ห้างสรรพสินค้า
- 호텔 – โรงแรม
- 회사 – บริษัท
- 사무실 – สำนักงาน
- 극장 – โรงละคร
- 영화관 – โรงภาพยนตร์
- 서점 – ร้านขายหนังสือ
- 공원 – สวนสาธารณะ
- 사진관 – ร้านถ่ายรูป
- 미용실 – ร้านเสริมสวย
ข้อ 11-14 ฟังบทสนทนาแล้วเดาว่าเหตุการณ์นี้ เค้าพูดถึงเรื่องอะไร เช่น ราคา, ชื่อ, ครอบครัว, การเดินทาง เป็นต้น ยกตัวอย่างคำศัพท์ที่ออกสอบแน่ๆ เช่น
- 일 – วัน
- 맛 – รสชาติ
- 시간 – เวลา
- 날짜 – วันที่
- 날씨 – อากาศ
- 이름 – ชื่อ
- 나라 – ประเทศ
- 장소 – สถานที่
- 주말 – สุดสัปดาห์
- 방학 – ปิดเทอม
- 운동 – การออกกำลังกาย
- 계획 – แผนการ
- 취미 – งานอดิเรก
- 직업 – อาชีพ
- 약속 – นัดหมาย,สัญญา
- 교통 – การคมนาคม, ระบบขนส่ง
- 위치 – ตำแหน่ง
- 소개 – การแนะนำ
ข้อ 15-16 ฟังบทสนทนาแล้วดูว่าตรงกับรูปภาพในข้อไหน พาร์ตนี้จะอาศัยคลังศัพท์+จินตนาการล้วนๆ
ข้อ 17-21 ฟังบทสนทนาสั้นๆ แล้วเลือกว่าคำตอบไหนตรงกับที่เค้าพูดกันในบทสนทนา
จากตัวอย่าง ผู้ชายถามผู้หญิงว่า เขียนจดหมายอยู่หรอ? และผู้หญิงก็ตอบว่า ใช่แล้ว! เขียนส่งไปให้น้องชายน่ะ ดังนั้น จึงเลือกตอบข้อ 4 ซึ่งบอกว่า ผู้หญิงมีน้องชาย
ข้อ 22-24 มีบทฟัง 1 บท พร้อมโจทย์ 3 ข้อ ซึ่งคำถามหลักคือ ข้อไหนตรงกับที่พูดให้ฟังบ้าง พาร์ตนี้ควรตั้งใจฟัง จับใจความให้ได้มากที่สุด และให้เลือกตอบแบบเร็วๆ
ข้อ 25-30 มีบทสนทนาให้ฟัง 3 บท โดยแต่ละบทจะมีคำถาม 2 ข้อ หลักๆ ก็จะถามประมาณว่า
- ทำไมผู้พูดถึงพูดแบบนั้น?
- คู่สนทนากำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่
- ข้อไหนถูกต้องตามบทสนทนาข้างต้น
รอบล่าสุดที่พี่ไปสอบมา มีบทสนาพูดถึงการซื้อบัตรคอนเสิร์ตวง BTS ด้วยนะครับ นอกจากความรู้เรื่องคำศัพท์แล้ว ต้องติดตามข่าวหรือสถานการณ์ปัจจุบันกันด้วยน้า //เผื่อออกสอบๆ
พาร์ตการอ่าน (읽기)
ข้อสอบมีจำนวน 40 ข้อ ใช้เวลาทำ 60 นาที มีทั้งประโยคสั้นๆ, ป้ายโฆษณา, เขียนจดหมาย-อีเมล, บทความสั้น-ยาว ซึ่งในการทำข้อสอบการอ่าน ถ้าเรารู้คำศัพท์เยอะก็จะยิ่งทำให้เราจับใจความได้ง่ายมากขึ้ น เยอะมากกกกก แต่ถ้าข้อไหนเราไม่รู้จริงๆ แนะนำให้ข้ามเลย อย่าไปเสียเวลาครับ เดี๋ยวทำข้อสอบไม่ทันนะ
ข้อ 31-33 พาร์ตนี้จะเป็นการวัดคำศัพท์พื้นฐานล้วนๆ (ศัพท์เหมือนๆ กับที่ยกตัวอย่างไปด้านบน) โดยโจทย์จะมีประโยคมาให้อ่านสั้นๆ แล้วเลือกว่าพูดถึงอะไรอยู่ ยกตัวอย่างข้อ 31 ประโยคเขียนว่า “ตอนนี้เป็นตอนเช้า เวลา 8 นาฬิกา” ดังนั้นข้อนี้จึงตอบข้อ 4 . 시간 (เวลา) นั่นเอง
ข้อ 34-39 จะเป็นการเติมคำในประโยคครับ ส่วนนี้จะเป็นการวัดความรู้เรื่องคำศัพท์และการใช้ไวยากรณ์พื้นฐานง่ายๆ เช่น คำศัพท์เรื่องสถานที่ (เช่น ร้านขายยา, โรงหนัง, บริษัททัวร์, ร้านสะดวกซื้อ) เรื่องการเลือกใช้คำกริยา, คำคุณศัพท์, กริยาวิเศษณ์ที่บอกความถี่ในการกระทำ (เช่น 항상, 자주, 가끔), คำบอกระยะทาง-ขนาด, ตัวชี้ประธาน-กรรม-สถานที่-เวลา เป็นต้น
ข้อ 40-42 จะมีป้ายโฆษณา ป้ายประกาศ หรือ text ข้อความสั้นๆ ให้อ่าน แล้วเลือกว่าจากรูปภาพ ข้อมูลข้อใดไม่ถูกต้อง
จากภาพ คิมมิยองส่งข้อความมาให้ไมเคิลเพื่อชวนไปดูหนังที่บ้านของเธอ โดยมีเพื่อนคนอื่นๆ ก็มาด้วยเหมือนกัน ซึ่งคำตอบของข้อนี้ต้องตอบข้อ 2 เพราะข้อความนี้บอกว่า ตอนนี้ทั้งมิยองและไมเคิลอยู่ด้วยกัน ซึ่งไม่ใช่ความจริง
ข้อ 43-45 มีข้อความให้อ่านสั้นๆ แล้วเลือกว่าช้อยส์ข้อไหนกล่าวถูกต้อง อย่างตัวอย่างข้อที่ 43 คำตอบคือข้อ 2 ซึ่งบอกว่า ฉันทำอาหารเกาหลีเก่ง ซึ่งจากบทความนี้ก็บอกตรงๆ เลย ไม่ได้มีการตีความอะไร เป็นอีกพาร์ตที่เน้นอ่านเร็ว ทำเร็วได้เลย
ข้อ 46-48 พาร์ตนี้จะค่อยๆ เพิ่มความยากขึ่นมานิดนึง เพราะคำตอบแต่ละข้อมีความใกล้เคียงกัน ต้องอาศัยการวิเคราะห์เพิ่มมา จากตัวอย่างข้อ 47 ด้านล่าง ข้อความบอกว่า “ฉันอยากใส่ชุดฮันบกสักครั้ง ดังนั้น ปิดเทอมครั้งนี้ถ้าได้ไปที่เกาหลี จะลองใส่ชุดฮันบกดูสักครั้ง และก็จะถ่ายรูปตอนใส่ชุดฮันบกด้วย”
- ปิดเทอมนี้อยากไปเกาหลี
- ถ้าได้ใส่ชุดฮันบกบ่อยๆ คงจะดีนะ
- อยากถ่ายรูปตอนใส่ชุดฮันบก
- จะลองใส่ชุดฮันบกที่เกาหลี
ข้อ 49-56 พาร์ตนี้อาศัยทักษะการอ่านและการปะติดปะต่อเรื่อง ซึ่งโจทย์ข้อแรกจะให้เรานำข้อความไปใส่ในช่องว่างของบทความให้ถูกต้อง ส่วนอีกข้อให้เลือกว่าข้อไหนถูกต้องตามบทความด้านบน ดังนั้น ถ้าน้องๆ เลือกเติมประโยคในข้อแรกไม่ถูก ก็อาจจะทำให้เสียคะแนนในข้อถัดมาได้นะครับ // พาร์ตนี้จะค่อยๆ เพิ่มเลเวลความยากขึ้น
ข้อ 57-58 พาร์ตนี้จะเป็นการเรียงประโยค ซึ่งบอกเลยว่า พวกการใช้คำเชื่อมในภาษาเกาหลีนั้นสำคัญมากๆ (เช่น ดังนั้น, ว่าแต่) คือบางทีเราอาจจะไม่ได้รู้ว่าคำศัพท์หรือประโยคนั้นกำลังพูดอะไรอยู่
- 그리고 – และ, แล้วก็
- 그러면 / 그럼 – ถ้าอย่างนั้น, งั้น
- 그런데 / 근데 – แต่, ว่าแต่, แต่ทว่า
- 그래서 – ดังนั้น
- 그러니까 – ดังนั้น
- 그렇지만 – แต่ว่า, อย่างไรก็ตาม
ข้อ 59-60 พาร์ตนี้ก็เช่นกันครับ ถ้าเราเลือกประโยคไปใส่ในบทความได้ถูกต้องในข้อแรก ก็จะเพิ่มโอกาสตอบถูกในข้อถัดไป
ข้อ 61-62 ข้อถัดมาเห็นบทความหลายบรรทัดแบบนี้อย่าเพิ่งลมจับนะครับ 5555 จริงๆ พาร์ตนี้เค้าจะวัดเรื่องความรู้คำศัพท์ของเรานั่นแหละ แต่ทักษะการอ่านและการแปลก็สำคัญเหมือนกัน //ไม่จำเป็นต้องรู้หมดทุกคำ บางทีก็สามารถเดาบริบทได้อยู่นะ และแน่นอนว่าถ้าเราเลือกคำได้ถูกต้อง ก็มีส่วนกับข้อถัดมาเหมือนกัน เพราะเค้าถามว่าประโยคไหนพูดถึงบทควาวมนี้ได้ถูกที่สุด
ข้อ 63-64 พาร์ตนี้เค้าจะมีป้ายประกาศ คำแนะนำ (안내) แบบยาวๆ มาให้ เชื่อว่าหลายคนมาถึงตรงนี้พอเจอบทความยาวๆ คือเป็นท้อแน่นอน แต่ชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไปนะครับ 555555 เห็นยาวๆ แบบนี้ แนะนำให้อ่านช้อยส์ก่อนเลยครับ จากนั้นค่อยไปอ่านตัวบทความ จะช่วยลดเวลาในการทำข้อสอบได้เยอะเลย แต่ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจก็แนะนำให้ข้ามข้อนี้ไปเลย เวลาใกล้จะหมดแล้วๆๆ
ข้อ 65-66 มาอีกแล้ว ให้เลือกเติมคำ ช้อยส์มาอย่างสั้น แต่บทความยาวไปอีก 5555 จริงๆ พาร์ตนี้คือเป็นการวัดความรู้ไวยากรณ์ของเราพร้อมสกิลการอ่านไปในตัว จะเห็นว่าคำศัพท์ในช้อยส์ที่ให้มาจริงๆ มาจากคำเดียวกันทั้งหมดคือ 마시다 (ดื่ม) แต่ต่างกันที่การผันไวยากรณ์นั่นเองครับ ตัวอย่างเช่น
- (이)나 – หรือ
- 도록 – เพื่อให้
- 거나 – ไม่…ก็…
- 기 때문에 – เพราะว่า
- (으)니까 – เพราะว่า (เหตุผลที่น่าจะรู้อยู่แล้ว)
- 지만 – ถ้า
- 려고 – เพื่อที่จะ, ตั้งใจจะ
- 동안에 – ระหว่าง
ข้อ 67-70 จะเหมือนกับด้านบนเลย แต่จะเพิ่มเลเวลความยากของคำศัพท์แลัะไวยากรณ์มากขึ้นไปอีก มาถึงตรงนี้พี่ก็ยังขอย้ำเหมือนเดิมว่าการสอบ TOPIK1 นั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คำศัพท์ คำศัพท์ และคำศัพท์ ยิ่งรู้มากเท่าไหร่ยิ่งทำข้อสอบได้ง่ายมากขึ้นเยอะเลย
สอบเสร็จแล้วค้าบบ! หลังจากนั้นก็กลับบ้านได้เลย แต่ก่อนกลับอย่าลืมไปแวะรับของที่ระลึกจากทางสนามสอบด้วยนะครับ เค้าจะแจกพวกหนังสือแนะแนวทางการเรียนต่อที่ประเทศเกาหลี รวมถึงข้อมูลทุนต่างๆ มีประโยชน์มากๆ และก็มีกระบอกน้ำให้ด้วย น่ารักมากกก
และสำหรับน้องๆ คนไหนที่กำลังเตรียมตัวสอบในรอบหน้า พี่เองก็แนะนำให้ลองโหลดข้อสอบเก่าๆ มาทำเลยครับ ตัวข้อสอบไม่ค่อยแตกต่างมากนัก วงคำศัพท์ก็คล้ายๆ กัน ถ้าใครฝึกทำบ่อยๆ ยิ่งช่วยให้ทำข้อสอบได้ง่ายแน่นอน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องคำศัพท์ ตุนกันไว้ให้เยอะๆ เลยนะครับ //ส่วนใครที่จะสอบในปีหน้าก็ขอให้คะแนนเต็มกันทุกคนเลยน้า ^^
ที่มา : www.dek-d.com